7.12.14

Day-3 คราวนี้ต้องฉายเดี่ยวจริงๆละนะ!!!


Day-3 ฉายเดี่ยวจริงๆละ!!!

ก็ตามพาดหัวเลยค่ะ ต้องไปเองคนเดียวแล้ววันนี้ และวันนี้เองก็ยังไม่มีแผนตามเคย 555+ ด้วยความที่กลัวหลงจัด เลยเกิดความพยายามหหาซื้อซิมการ์ด เราเสียเวลาค่อนข้างมาก เรื่องซิมการ์ดในวันที่ 3 นี้เพราะไม่ได้เตรียมตัวไว้ก่อน กะใช้ไวไฟฟรีทั่วโซล แต่ไวไฟเจ้ากรรม มันไม่ได้เสถียร์ทั้วทุ่งอย่างที่เราฝันไว้ โอ้วววว ซาร่า! เราตื่นสายออกบ่าย เสียเวลาคุยกับจนท.ร้าน Olleh อยู่หลายร้านมาก แต่ทุกร้านเหมือนกันคือ สต๊าฟร้าน พูดภาษาอังกฤษแทบไม่ได้ ภาษาใบ้ กูเกิลทรานส์ คาเคาทรานส์ มาหมด... โดยคร่าวๆที่เราทราบมา สำหรับ Olleh เราต้องอยู่ให้ครบ 3 วัน เราก็ไม่ค่อยเข้าใจนะว่าทำไมต้อง 3 วัน??เผื่อใครอ่านอยู่มาอัพเดทให้เราหน่อยค่ะ เรื่องเช่าไข่ หรือโรมมิ่ง ลืมมันไปนะคะ เรางก เราจะไม่ยอมเสียค่าเน็ต เกินวันละ 100 บ. (ㅠㅠ)



เราเดินกลับไปกลับมาตรงฮงแดค่ะ หน้าร้าน Olleh ที่อยู่ใกล้ๆ ETUDE ร้านที่คนไทยชอบไปลงซื้อเยอะๆน่ะค่ะ เราไปขอแผนที่มือ(คู่มือ) จาก Information 2 สาวน่ารัก ที่เป็นล่าม อังกฤษ 1 จีน 1 เค้าจะแต่งชุดสีแดง สู้ลมหนาวอยู่ค่ะ (ใจสู้ๆมากค่ะสองสาวนี้) คำแรกที่ทักเราเลยคือ "คนจีนรึเปล่าคะ?" (ภาษาจีน) เราเลยมองหน้าพวกเค้าด้วยสายตาเว้าวอนแล้วบอกว่า 'English please' ฮ่าๆๆๆ 



พวกเธอเลยให้แผนที่เล่มนี้มาค่ะ ใช้ได้ดี มีโปรโยชน์ฝุดๆ




จนแล้วจนรอดเราไปอีกสาขานึงในฮงแด มีร้านนี้ที่บอกว่า เราสามารถซื้อได้นะคะ แต่โทรศัพท์เราต้อง unlock ก่อน เท่านั้นล่ะ งงไป 3 บ้าน 8 บ้าน... เหอๆๆๆ เอาไงล่ะทีนี้ เราจะรู้ได้ไง เห็นเค้าบอกว่าเราต้องโทรถามดีแทคค่ะ แต่กระนั้นแล้วไง เราจะโทรได้ไง เราไม่ได้เปิดโรมมิ่ง ไม่ต้องคิดถึงค่าโทรค่ะ (แต่โทรศัพท์เราเป็น Andriod) เราก็แอบงง ว่าแล้วชั้นจะทำไงวะเนี่ย เราไม่รู้จะทำไง หงุดหงิดมาก เลยตัดใจเดินออกจากร้านค่ะ ไปเที่ยวดีกว่า เสียเวลาไปเปล่าๆ


ตัดสินใจจิ้มแผนที่แล้วออกเดินทาง!!!

สิ่งแรกที่เราต้องการไปชม คือวังค่ะ เราเปิดแผนที่ดูไปมา แล้วหาสถานีรถใต้ดินมาลงค่ะ จากฮงแด ไปสถานี 'เคียงบกกุง' (Gyeongbokgung) สายสีส้ม และด้วยความที่ เรายังงงๆ (จริงๆนะ - -") เราขึ้นรถผิดฝั่งค่ะ! เราพูดเลยว่าเรารู้ตัวอีกทีนึง คือเรามาถึงสถานี Yeongdeungpogu-office แล้วค่ะ (ดูตามรูปด้านล่างเพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นนะคะเส้นสีชมพู ที่เราไปผิดทาง) หลงไปไกลพอดู 3 ป้าย 55+ แต่เอาจริงๆเหมือนเป็นความฟลุ้คมากค่ะ เราเดินหาทางกลับฝั่งอีกฝั่ง จนไปเดินผ่านหน้า Nature Republic ค่ะ (จริงๆNature Republic มีทุกซอกซอยนะ55+) แต่ทีนี้ความพิเศษ มันอยู่ตรงนี้ คือเราไปมองหา Lip treat ค่ะ ด้วยความที่เราปากแตกมาก เลือดซิบแล้ว เลยลองมองหาดู ทีนี้ ผจก.สาขานี้ค่ะ นางเฟรนลี เข้ามาทักเรา เกือบเดินหนีแล้ว (555+) แต่เค้าไวมาก ถามเราเป็นภาษาอังกฤษ เลยตอบกลับไป ทีนี้เลยคุยกันถูกคอมากค่ะ เราถามเธอ เธอก็แนะนำเราดีมากๆจริงๆนะ จนสุดท้าย เราเลยเป็นเพื่อนกันโดยปริยายค่ะ ลืมถ่ายรุปเธอมาให้ดู เธอชื่อยุนอาค่ะ น่ารัก เป็นผจก.สาขาที่พูดอังกฤษคล่องมาก เราบอกเธอว่า เราจะกลับไปซื้อของร้านเธอนะ เพราะเราเป็นเพื่อนกัน จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ไปค่ะ เสียใจมากเลย.. :( ใครผ่านไปสาขานี้ อย่าลืมไปถามหายุนอานะคะ เธอใจดี และจะแนะนำสินค้าให้คุณ คล่องมากๆ :D
ในที่สุด เรางมหาทางกลับมา ถึงสถานีรถใต้ดิน เคียงบกกุงจนได้ค่ะ สิ่งที่เราเห็น ณ เวลานั้นคือ สถานีรถใต้ดินที่คนแทบไม่มี เราเหลือบมองนาฬิกา ตายล่ะ เกือบๆ 5 โมงครึ่งแล้วค่ะ (เราคิดในใจไปทำไมนะ? 55+) แต่เอาเข้าจริงๆเราก็เดินออกไปดูวังค่ะ เห็นแค่รั้ว ประตูก็ยังดี 

เดินมาแบบ โพล้เพล้มากค่ะตะวันกำลังจะตก ประตูวังปิดแล้ว 
เราผิดหวัง(กับตัวเอง)เล็กน้อยที่มาเวลานี้ แต่ลองมองดีๆ 
เดินชมในตอนที่ไม่มีผู้คน มันได้คุยกับตัวเองนะ♡

บรรยากาศรอบๆตัว เราดื่มด่ำกับมันมากทีเดียวล่ะ
เรานั่งเล่นใต้ต้นไม้สักพักนึง เลยเดินกลับไปยังรถใต้ดินอีกฝั่งค่ะ เราโผล่ออกมาเพื่อจะไปดูประตูวังหรือ 'ควังฮวามุน' ซึ่งเป็นประตูด้านหน้า ที่คุณจะเห็นพระเจ้าเซจงน่ะค่ะ

เราโผล่ขึ้นมาปุ๊บ จากสถานีเคียงบกกุง ทางออก 4 ค่ะ
เจอร้านกาแฟที่สวยน่านั่งมาก ความคิดแค่นับ 1...2 ... 3 เข้าร้านเลยค่ะ

ร้านนี้มีชื่อว่า 'บมมาดาพูรึม'(봄마다푸름
มาเป็นบ้านโบราณเลย ก็ชอบสิ่คะ >////<)

เราสั่งกาแฟตามระเบียบค่ะ อเมริกาโน่
กาแฟที่เหมาะกับสาวโสด 555+


กะว่าไม่กินอะไรแล้วนะ จะกินกาแฟ แล้วชมร้านเนียนๆ
แต่นั่งไปนั่งมา ได้กลิ่นขนมหอมๆ หิวแล้ว ข้าวยังไม่ได้ทาน
เลยไปจิ้มๆที่เคานเตอร์เค้าค่ะ ได้สิ่งนี้มา...



มันมีชื่อว่า อินจอลมี โทสต์  (인절미 토스트)
(เวลาสั่ง อย่าลืมใส่แอคเซ้นท์เกาหลีนะ)

เป็นขนมปังปิ้งแบบบค่อนข้างกรอบค่ะ
มีแนบกับขนมเกาหลีเหนียวหนึบ อุ่นๆ ซึ่งตรงไส้เหนียวหนึบ
มีแทรกน้ำตาลทรายแดงอยู่ อร่อยแบบลืมไม่ลงค่ะ
ในวันที่อากาศหน๊าวววว หนาว บอกเลยฟิน!
อยากกินอีกหลายๆรอบเลย♡

แต่แค่นี้เราก็พอดีกว่าค่ะ เดี๋ยวแคลอรีต่อวันจะเกินพุ่งปรี๊ด


จากนั้นได้เวลาเดินๆๆๆๆกันต่อ เดินต่อ ออกจากหน้าร้าน 
หันไปด้านซ้ายค่ะ เดินข้ามถนนไปเรื่อยๆ เราจะเจอสิ่งที่เรามองหา ควังฮวามุน! (광화문)

ควังฮวามุน สวยมาก...แต่เราก็หนาวมากเช่นกัน

Sejong Center For The Performing Arts
(세종문화회관)
 คืนนั้นหนาวราวๆ 3-5 องศาค่ะ เดินตากลมกลางจุตุรัสกันไป
ตรงหน้าควังฮวามุน จะสามารถเดินได้ค่ะ ทางเดินตรงนั้นใหญ่มากคุณจะเห้นทิวทัศน์เมืองยามค่ำคืนที่เราจะรู้สึกเหมือนเป็นคนแคระ กลางเมืองใหญ่ค่ะ 
 หนาวจนมือแข็ง แต่เราก็ถ่ายรูป
อนุสาวรีย์พระเจ้าเซจง ผู้ประดิษฐ์อักษรเกาหลี

เดินไปเรื่อยๆค่ะ มองความงามยามค่ำคืน หนาวแต่ก็ดื่มดำคนเดียวได้
จนมาถึงจุดนี้ค่ะ จะเจอสถานีรถใต้ดินต่อไป

แต่เราก็ไม่ได้ไปต่อรถค่ะ เดินอีกด้านเพื่อหาคลองชองกเยชอน (청계천)

TO BE CONTINUED...




1 comment:

  1. 감사합니다...

    아 .. 그리고... 빨리와~ ㅋㅋㅋ

    ReplyDelete