7.12.14

Day 2... my journey has begun! (part 2)

เพื่อไม่ให้โพส ยาวเกินไป เลยขอตัดตอนการเดินทางพาร์ทต่อมา มาเป็นอีกโพสนึง... 

พอทานกาแฟเรียบร้อย ถ่ายรูปสวยๆชิลล์ๆ เราเดินกลับไปห้องพักของคุณพี่เพื่อนเราค่ะ เพื่อเช็คอิน และเก็บกระเป๋า เกสเฮาส์นี้ อยู่ข้างๆกับตึกซัมซุงตรงทางออก 2 ตรงข้ามตึกยูนิโค่ลเลย จำชื่อไม่ได้ - -" แฮะๆ แต่สะดวกดีสำหรับนักช้อปนะคะ ใครชอบแนวใกล้แหล่งช้อปปิ้ง ก็ลองหาแถวๆนี้ได้ค่ะ จากนั้นเดินหาของยูนิโค่ลฝั่งตรงข้ามนิดนึง... ยูนิโค่ลเกาหลีมีเสื้อผ้าแนวๆ Heattech เพียบ บางไอเท่มก็ไม่มีในไทยค่ะ แถวสาขานี้ก็ใหญ่มาก มี 3 ชั้นเลยค่ะ



เราไปคุ้ยๆกระบะที่เค้าล้างสต๊อตวางไว้ ได้กางเกงนอนมาด้วยนะ 3,990  หุหุ~(ประมาณ120 บ.ใส่นอนอีกหลายวัน อิยะฮ่าฮ่า!!) 


เดินทางสู่ 1st Attraction! N Seoul Tower...


เอาล่ะ มาเข้าเรื่องที่เที่ยวต่อไป พี่เราชีพาไปขึ้นรถเมล์ค่ะ สัมผัสบรรยากาศผู้คนบนรถเมล์ ลงใต้ดิน สถานีเมียงดง ทางออก 3 เดินออกมารอรถเมล์ค่ะ รถเมล์เบอร์ 05 ขึ้นเขานัมซานกันค่ะ 

แผนที่โดยสังเขป
บริเวณป้ายรถเมล์ที่เรารอค่ะ

นั่งขึ้นเขาโดยรถเมล์ ประมาณ 20 นาทีค่ะ บัสจะมาจอที่ป้าย ตรงทางเดินขึ้นเขา
(บริเวณนี้) ให้เราเดินขึ้นไปอีกนิดนึงนะคะ นัมซานอยู่บนเนินเขา
ขึ้น และลงเขานัมซาน ด้วยรถเมล์ค่ะ เราไม่ทราบราคา เพราะลืมดูตอนตื๊ดกับเครื่องค่ะ

ส่วนใครอยากขึ้นกระเช้า ต้องไปทาง นัมซานพาร์คนะคะ อันนี้เราไม่ได้ไปเราว่าไปทางนี้มันสะดวกดีค่ะ
เพราะเราเดินกลับมาที่เดิม สบายดี ไม่หลง

 เย็นย่ำก็ถ่ายรูปกันไป...


 ร้านรวงเปิดให้บริการ ทั้งกาแฟ อาหาร


กุญแจในตำนานที่คล้องกันมาเป็นเวลานาน

บริเวณนัมซานทาวเวอร์จะมีร้านขายของที่ระลึกอยู่นะคะ ในช้อปมีสินค้าหลายๆอย่าง
ทั้งแฟ้ม ปากกา ที่คั่นหนังสือ บลาๆ เราตัดสินใจสอยแม่เหล็กมาค่ะ
เป็นผลงานของศิลปินที่เราชอบเค้าทำไดอารีแนวนี้ตลอดสวยมาก
L'après Midi 
เราขอไม่บอกราคาของเซ็ตนี้นะคะ ไม่ได้แพงมาก แต่ก็ไม่ได้ถู๊กถูกอ่ะ
เพราะฉะนั้น ก็ลองไปเดินเลือกชมก็แล้วกันนะคะ อิอิ
...Sunset...
 ตะวันยอแสง ที่นัมซานทาวเวอร์


 Seoul Night
มองลงมาเป็นภาพเมืองยามค่ำคืน ไฟระยิบระยับ เหมือนเพชรส่องประกายเลยค่ะ สวยมากกกก~
ณ ป้ายรถเมล์ รอรถ เบอร์ 05 ค่ะ ลงเขาเข้าเมียงดงต่อไป... 


เดินกันต่ออีกหน่อยมั้ย? ...
ก็เมื่อยกันมามากแล้วนะคะ  แต่คงยังไม่สาแก่ใจพระเดชพระคุณ เราไปต่อกันที่ DDP หรือเรียกยาวๆว่า Dongdaemun Design Plaza (동대문디자인플라자) ที่เที่ยวใหม่แด่คู่รัก ชมทุ่งดอกกุหลาบไฟฟ้า ในยามค่ำคืน เดินออกจากรถใต้ดิน Dongdaemun History & Culture Park Station (Line 4), ทางออก1 เดินออกมาเรื่อยๆ จนเจอตัวอาคารค่ะ
pic credit: http://www.flickr.com/photos/seoulmayor/11973449335/

อาคารทงแดมุน ดีไซน์เซนเตอร์นี้ ถือเป็นอาคารที่แปลกตามากๆ ที่จริงๆแล้ว เมื่อก่อนเคยเป็นสนามเบสบอลของทงแดมุน แต่ก็ได้การปรับเปลี่ยนมาเป็นสถานที่แสดงศิลปะที่มีเนื้อที่ 62,692㎡ กว้างมาก.. ซึ่งอาคารนี้มีประมาณ 4 ชั้น ซึ่งจะจัดแสดงงานศิลปะ จัดอีเวนท์ และเป็นพิพิธภัณฑ์งานศิลปะอีกด้วย เราเดินมาเรื่อยๆ จนถึงตัวอาคารค่ะ เราเดินเข้าไปทางด้านหน้า ถามเจ้าหน้าที่ว่าทุ่งกุหลาบไปทางไหน เค้าจะบอกทางเราค่ะ สิ่งที่เราเห็นเมื่อเท้าก้าวผ่านประตูมาคือ.... 




เรารู้สึกเหมือนเราอยู่ในยานอวกาศค่ะ มันให้อารมณ์แบบนั้นมากๆ คือถ้าไปตอนกลางวัน จะมีพวกงานศิลปะ แกลอรีให้เดินชม แต่เรามาตอนกลางคืนเพื่อชมสิ่งนี้...



ทุ่งกุหลาบ....กรี๊ดดดดดดด.... \(>3<)/
สวยมากค่ะ คนเยอะมาก แต่ในภาพ เราโฟกัสทุ่งดอกไม้
ถ้าคุณเห็นขอบๆตรงทุ่งดอกไม้ นั่นคือคน เยอะมากๆค่ะนทท.ที่มาชมที่นี่




มาเห็นขนาดนี้ ปวดขาแทบตาย ก็ลืมเลยค่ะ! สวยแบบ อึ้งๆในความพยายามของมนุษย์จริงๆ
Address 

281 Eulji-ro, Jung-gu, Seoul (서울특별시 중구 을지로 281)

Closed

Every Mondays (ปิดทุกวันจันทร์)


ออกจาก DDP เดินลัดเลาะมาตามถนน หาสตรีทฟู้ดทานแบบเป็นทางการ เหลือบไปเห็นคุณป้าร้านนี้

แกขายโอเด้ง กับลูกชิ้นแหล่ะค่ะ เราหิวมาก เลยสวาปามเจ้าท่อนไส้กรอกห่อด้วยมันฝรั่งทอด
คือจะบอกว่า 3-4 คำแรก อร่อยมาก... พอกินไปครึ่งอัน เหมือนกินเฟรนช์ฟรายแมคฯอยุ่ริมถนน ต้องทานน้ำซุปกลั้วไปตลอด จนหมดไม้ด้ววยความเสียดาย เราทานไม้นั้น ส่วนพี่เราทานโอเด้งไม้ละพันวอน และลูกชิ้นร่วมสาบาน(ว่าจะช่วยกันคนละครึ่งไม้) กันไป จุกๆค่ะ 555+
จริงๆอาหารพวกนี้ หาทานได้ทั่วไปตามถนนเลยค่ะ ไม่ได้แปลกอะไร (สำหรับบ้านเค้า) อารมณ์เหมือนลูกชิ้นทอดบ้านเรามีซอสให้ทาถ้าไม่เผ็ดสะใจพอ มีน้ำซุปให้กลั้วคอ แก้หนาวด้วย ราคา 1,000-3,000  แล้วแต่กินอะไร(ที่อยู่ตรงนั้น) จ่ายตังค์ก่อนกิน กินก่อนแล้วนับไม้ทีหลังก็ได้ทั้งนั้นค่ะ ไม่ได้กินคงมาไม่ถึงเกาหลี ฮ่าๆๆ (ประมาณนั้น)... 
อิ่มๆหนาวๆ เดินร้าวๆทรวงกันไปเพราะวันนั้น ราวๆ 5 องศา ในยามค่ำคืน ชะนีไทยแลนด์ยังไม่ชินกับอากาศแบบนี้ค่ะ ได้แต่สั่นสู้กันไป...ได้เวลากลับบ้านนอน 



โพสต่อไป จะเป็นการทัวร์แบบฉายเดี่ยวจริงๆละค่ะ ไปอ่านต่อได้นะ...อิอิ 

No comments:

Post a Comment