เพื่อไม่ให้โพส ยาวเกินไป เลยขอตัดตอนการเดินทางพาร์ทต่อมา มาเป็นอีกโพสนึง...
พอทานกาแฟเรียบร้อย ถ่ายรูปสวยๆชิลล์ๆ เราเดินกลับไปห้องพักของคุณพี่เพื่อนเราค่ะ เพื่อเช็คอิน และเก็บกระเป๋า เกสเฮาส์นี้ อยู่ข้างๆกับตึกซัมซุงตรงทางออก 2 ตรงข้ามตึกยูนิโค่ลเลย จำชื่อไม่ได้ - -" แฮะๆ แต่สะดวกดีสำหรับนักช้อปนะคะ ใครชอบแนวใกล้แหล่งช้อปปิ้ง ก็ลองหาแถวๆนี้ได้ค่ะ จากนั้นเดินหาของยูนิโค่ลฝั่งตรงข้ามนิดนึง... ยูนิโค่ลเกาหลีมีเสื้อผ้าแนวๆ Heattech เพียบ บางไอเท่มก็ไม่มีในไทยค่ะ แถวสาขานี้ก็ใหญ่มาก มี 3 ชั้นเลยค่ะ
เราไปคุ้ยๆกระบะที่เค้าล้างสต๊อตวางไว้ ได้กางเกงนอนมาด้วยนะ 3,990 ₩ หุหุ~(ประมาณ120 บ.ใส่นอนอีกหลายวัน อิยะฮ่าฮ่า!!)
เดินทางสู่ 1st Attraction! N Seoul Tower...
เอาล่ะ มาเข้าเรื่องที่เที่ยวต่อไป พี่เราชีพาไปขึ้นรถเมล์ค่ะ สัมผัสบรรยากาศผู้คนบนรถเมล์ ลงใต้ดิน สถานีเมียงดง ทางออก 3 เดินออกมารอรถเมล์ค่ะ รถเมล์เบอร์ 05 ขึ้นเขานัมซานกันค่ะ
แผนที่โดยสังเขป
บริเวณป้ายรถเมล์ที่เรารอค่ะ
นั่งขึ้นเขาโดยรถเมล์ ประมาณ 20 นาทีค่ะ บัสจะมาจอที่ป้าย ตรงทางเดินขึ้นเขา
(บริเวณนี้) ให้เราเดินขึ้นไปอีกนิดนึงนะคะ นัมซานอยู่บนเนินเขา
(บริเวณนี้) ให้เราเดินขึ้นไปอีกนิดนึงนะคะ นัมซานอยู่บนเนินเขา
เย็นย่ำก็ถ่ายรูปกันไป...
ร้านรวงเปิดให้บริการ ทั้งกาแฟ อาหาร
บริเวณนัมซานทาวเวอร์จะมีร้านขายของที่ระลึกอยู่นะคะ ในช้อปมีสินค้าหลายๆอย่าง
ทั้งแฟ้ม ปากกา ที่คั่นหนังสือ บลาๆ เราตัดสินใจสอยแม่เหล็กมาค่ะ
เป็นผลงานของศิลปินที่เราชอบเค้าทำไดอารีแนวนี้ตลอดสวยมาก L'après Midi
เราขอไม่บอกราคาของเซ็ตนี้นะคะ ไม่ได้แพงมาก แต่ก็ไม่ได้ถู๊กถูกอ่ะ
เพราะฉะนั้น ก็ลองไปเดินเลือกชมก็แล้วกันนะคะ อิอิ
...Sunset...
ณ ป้ายรถเมล์ รอรถ เบอร์ 05 ค่ะ ลงเขาเข้าเมียงดงต่อไป...
เดินกันต่ออีกหน่อยมั้ย? ...
ก็เมื่อยกันมามากแล้วนะคะ แต่คงยังไม่สาแก่ใจพระเดชพระคุณ เราไปต่อกันที่ DDP หรือเรียกยาวๆว่า Dongdaemun Design Plaza (동대문디자인플라자) ที่เที่ยวใหม่แด่คู่รัก ชมทุ่งดอกกุหลาบไฟฟ้า ในยามค่ำคืน เดินออกจากรถใต้ดิน Dongdaemun History & Culture Park Station (Line 4), ทางออก1 เดินออกมาเรื่อยๆ จนเจอตัวอาคารค่ะ
pic credit: http://www.flickr.com/photos/seoulmayor/11973449335/
อาคารทงแดมุน ดีไซน์เซนเตอร์นี้ ถือเป็นอาคารที่แปลกตามากๆ ที่จริงๆแล้ว เมื่อก่อนเคยเป็นสนามเบสบอลของทงแดมุน แต่ก็ได้การปรับเปลี่ยนมาเป็นสถานที่แสดงศิลปะที่มีเนื้อที่ 62,692㎡ กว้างมาก.. ซึ่งอาคารนี้มีประมาณ 4 ชั้น ซึ่งจะจัดแสดงงานศิลปะ จัดอีเวนท์ และเป็นพิพิธภัณฑ์งานศิลปะอีกด้วย เราเดินมาเรื่อยๆ จนถึงตัวอาคารค่ะ เราเดินเข้าไปทางด้านหน้า ถามเจ้าหน้าที่ว่าทุ่งกุหลาบไปทางไหน เค้าจะบอกทางเราค่ะ สิ่งที่เราเห็นเมื่อเท้าก้าวผ่านประตูมาคือ....
เรารู้สึกเหมือนเราอยู่ในยานอวกาศค่ะ มันให้อารมณ์แบบนั้นมากๆ คือถ้าไปตอนกลางวัน จะมีพวกงานศิลปะ แกลอรีให้เดินชม แต่เรามาตอนกลางคืนเพื่อชมสิ่งนี้...
ทุ่งกุหลาบ....กรี๊ดดดดดดด.... \(>3<)/
สวยมากค่ะ คนเยอะมาก แต่ในภาพ เราโฟกัสทุ่งดอกไม้
ถ้าคุณเห็นขอบๆตรงทุ่งดอกไม้ นั่นคือคน เยอะมากๆค่ะนทท.ที่มาชมที่นี่
สวยมากค่ะ คนเยอะมาก แต่ในภาพ เราโฟกัสทุ่งดอกไม้
ถ้าคุณเห็นขอบๆตรงทุ่งดอกไม้ นั่นคือคน เยอะมากๆค่ะนทท.ที่มาชมที่นี่
มาเห็นขนาดนี้ ปวดขาแทบตาย ก็ลืมเลยค่ะ! สวยแบบ อึ้งๆในความพยายามของมนุษย์จริงๆ
Address
281 Eulji-ro, Jung-gu, Seoul (서울특별시 중구 을지로 281)
Closed
Every Mondays (ปิดทุกวันจันทร์)
ออกจาก DDP เดินลัดเลาะมาตามถนน หาสตรีทฟู้ดทานแบบเป็นทางการ เหลือบไปเห็นคุณป้าร้านนี้
แกขายโอเด้ง กับลูกชิ้นแหล่ะค่ะ เราหิวมาก เลยสวาปามเจ้าท่อนไส้กรอกห่อด้วยมันฝรั่งทอด
คือจะบอกว่า 3-4 คำแรก อร่อยมาก... พอกินไปครึ่งอัน เหมือนกินเฟรนช์ฟรายแมคฯอยุ่ริมถนน ต้องทานน้ำซุปกลั้วไปตลอด จนหมดไม้ด้ววยความเสียดาย เราทานไม้นั้น ส่วนพี่เราทานโอเด้งไม้ละพันวอน และลูกชิ้นร่วมสาบาน(ว่าจะช่วยกันคนละครึ่งไม้) กันไป จุกๆค่ะ 555+
จริงๆอาหารพวกนี้ หาทานได้ทั่วไปตามถนนเลยค่ะ ไม่ได้แปลกอะไร (สำหรับบ้านเค้า) อารมณ์เหมือนลูกชิ้นทอดบ้านเรามีซอสให้ทาถ้าไม่เผ็ดสะใจพอ มีน้ำซุปให้กลั้วคอ แก้หนาวด้วย ราคา 1,000-3,000 ₩ แล้วแต่กินอะไร(ที่อยู่ตรงนั้น) จ่ายตังค์ก่อนกิน กินก่อนแล้วนับไม้ทีหลังก็ได้ทั้งนั้นค่ะ ไม่ได้กินคงมาไม่ถึงเกาหลี ฮ่าๆๆ (ประมาณนั้น)...
อิ่มๆหนาวๆ เดินร้าวๆทรวงกันไปเพราะวันนั้น ราวๆ 5 องศา ในยามค่ำคืน ชะนีไทยแลนด์ยังไม่ชินกับอากาศแบบนี้ค่ะ ได้แต่สั่นสู้กันไป...ได้เวลากลับบ้านนอน
โพสต่อไป จะเป็นการทัวร์แบบฉายเดี่ยวจริงๆละค่ะ ไปอ่านต่อได้นะ...อิอิ
No comments:
Post a Comment